สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
นานทีเดียวที่ไม่ได้พบกันที่บล็อกนี้ หวังว่าทุกท่านคงสบายดีนะคะ ฉันเองก็สบายดีเพราะว่าอากาศดี ไม่หนาวมากนัก แดดจ้าท้องฟ้าสว่างเต็มไปด้วยก้อนเมฆสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีคราม นานแล้วที่ไม่ได้เห็นบรรยากาศธรรมชาติที่ปลอดโปร่งเช่นนี้ อากาศสดชื่น จิตใจก็พลอยสดชื่นไปด้วยและร่างกายก็กระฉับกระเฉงขึ้น เลยทำให้นึกถึงท่านผู้อ่าน เพราะว่าห่างเหินกันมานานแล้ว วันนี้ก็มีเรื่องน่าสนใจมาเผยแพร่จ๊ะ
เมื่อ ๒ วันผ่านมานี้ ฉันและครอบครัวได้มีโอกาสไปร่วมงานฉลองวัดฮินดู ซึ่งเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 บัดนี้การก่อสร้างก็เกือบเสร็จสมบูรณ์ ยังเหลือเพียงภายนอกยังไม่สมบูรณ์ดี ส่วนภายในเสร็จเรียบร้อย สามารถใช้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ได้ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ มีนา ที่ผ่านมานี้ องค์เทพเจ้าต่าง ๆ เช่น พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระพิฆเนตร พระกฤษณะ พระตรีมูรติ และองค์เทพอื่น ๆ อีกมากมาย เพิ่งมาถึงวัดในตอนเช้า ในตอนเย็นวันนั้นทางวัดได้ทำพิธีอัญเชิญเทพเจ้าทุกองค์ เข้าประทับในแต่ละวิมาน ซึ่งตกแต่งเตรียมไว้อย่างสวยงาม ในพิธีเปิดวัดครั้งนี้ ทางสมาคมของวัดได้เชิญ Prister หรือพราหมณ์ มาทำพิธี...... ฉันเองไม่ใช่ชาวฮินดู ใช้สรรพนามไม่ถูกต้องนัก ต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านด้วยนะคะ
เราเป็นครอบครัวชาวพุทธ เป็นครอบครัวเดียวที่เข้าไปช่วยชาวอินดูสร้างวัด เพราะเขาทราบว่า สามีฉันมีประสบการณ์เกี่ยวการสร้างวัดไทยมาแล้ว จึงได้มาขอความช่วยเหลือ เราก็เข้าไปช่วยตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไร ทำด้วยความเมตตา เพราะมีความเห็นว่าแต่ละศาสนาก็สอนให้คนทำความดีละความชั่ว ส่วนตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ก็มีอุปนิสัยแตกต่างกันไปตามการสะสมของแต่ละคน เราก็ร่วมพิธีกรรมกับเขาได้ เราไม่รังเกียจศาสนาอื่น ไม่หวังสิ่งตอบแทนจากพวกเขา แค่เขาเป็นมิตรกับเรา ๆ ก็พอแล้ว ในวันทำพฺิธีเบิกเนตรและพิธีปลุกเสกองค์เทพเจ้าทั้งหมด พราหมณ์ผู้เป็นใหญ่สูงสุดของศาสนาฮินดู ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่เสียสละและให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างวัดในครั้งนี้ ได้มีการมอบผ้าคล้องคอให้เป็นเกียรติแก่บุคคล ๓ ท่าน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้งานก่อสร้างวัดสำเร็จไปด้วยดี คือ ประธานสมาคมซึ่งเป็นชาวศรีลังกา, สถาปนิกชาวสวิส (สามีฉันเอง) และผู้จัดการ
บริษัทก่่อสร้าง - ตกแต่งภายในวัด ซึ่งเป็นชาวอินเดีย ในพิธีปลุกเสกองค์เทพครั้งนี้ ได้มีพราหมณ์ระดับใหญ่จากอินเดียและศรีลังกา ๑๐ ท่าน ร่วมกันทำพิธีปลุกเสกด้วย
ในวันแรกที่องค์เทพเข้าประจำวิมานแล้ว พราหมณ์ผู้เป็นใหญ่สูงสุดของศาสนาฮินดู ได้เชิญให้พวกเราทั้งครอบครัวนำน้ำมันไปทาองค์เทพทุกองค์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นโอกาสอันเป็นมงคลอย่างยิ่ง เพราะหลังจากนั้นแล้ว เราจะไม่มีโอกาสไปแตะต้องลูบองค์เทพได้อีกเลย องค์เทพนี้ทำด้วยหินแกรนิต พอถูกน้ำมันอาบชุ่มจนทั่วทั้งองค์ ก็จะกลายเป็นองค์สีดำขึ้นเงาแวววาวสวยงานมาก จะดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที ในวันที่ ๑๕ และวันที่ ๑๖ มีนาเป็นวันทำพิธีสำคัญภายใน มีผู้เข้าร่วมพิธีเฉพาะที่ได้รับเชิญเท่านั้น ในวันที่ ๑๕ นี้ ได้มีการสร้างสถานที่ประทับองค์พระศิวลึงค์ในตอนดึก ต้องสร้างให้เสร็จเรียบร้อยในคืนนั้น วันรุ่งขึ้นก็จะมีการแต่งองค์ทรงเครื่องสวยงาม มีการเปลี่ยนเครื่องทรงถึงสอง
ครั้ง วันที่ ๑๗ มีนาได้มีการทำพิธีบูชาสำคัญยิ่งในตอน ๙ โมงเช้า จะปิดประตูโบสถ์ไม่ให้คนภายนอกเข้า จะมีเฉพาะคณะพราหมณ์และผู้มีความสำคัญต่อวัด คณะกรรมการวัด เข้าร่วมพิธี เป็นพิธีบูชาไฟ ควันโหมมืดมัวไปทั่วโบสถ์ เสียงสวดร่ายเวทคาถา เสียงปี่พาทย์บรรเลง เสียงระฆังและเสียงผู้คนร้องอวยพรแด่เทพเจ้า ดังลั่นทั้งในโบสถ์และนอกโบสถ์ เมื่อเสร็จพิธีบูชาไฟแล้ว จึงเปิดประตูโบสถ์ให้คนภายนอกเข้าไปร่วมพิธีบูชาและไปไหว้ขอพรจากองค์เทพเจ้าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ พิธีกรรมของศาสนาฮินดูเป็นพิธีที่ตื่นเต้นร้อนแรงเพราะเขาบูชาไฟกัน ก็แปลกดีและน่าสนใจด้วย......ต่อไปนี้ก็ขอเชิญชมรูปภาพพิธีบูชาไฟของชาวฮินดูเลยนะคะ
|
เครื่องบวงสรวงเทพเจ้้า |
|
พิธีปลุกเสก |
|
พิธีปลุกเสกองค์เทพเจ้า |
|
คณะพราหมณ์ทำพิธีบวงสรวงพระศิวะ |
|
วิมานของพระพิฆเนตร คณะพราหมณ์กำลังทำพิธีบวงสรวง |
|
ท่านพราหมณ์ Somas Kandar โปรดผู้ศรัทธา |
|
ผู้ศรัทธาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เข้าแถวรอเข้าบูชาและขอพรพระแม่อุมาเทวี |
|
พระพิฆเนตรในเครื่องทรงสวยงาม |
|
พระศิวลึงค์เพิ่งสร้างเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ |
|
พระแม่อุมาเทวีและองค์เทพเจ้าอื่น ๆ |
|
เทพเจ้าแห่งดวงดาวนพเคราะห์ ๙ องค์ |
|
วิมานพระตรีมูรติ |
|
วิมานขององค์เทพเจ้าต่าง ๆ ตกแต่งโดยกลุ่มช่างชาวฮินดูจากประเทศอินเดีย |
เห็นภาพพิธีกรรมของศาสนาฮินดูแล้วเป็นไงบ้างค่ะ เป็นบุญตานะคะที่ได้ชม เพราะไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อย ๆ ในงานนี้ฉันได้มีโอกาสคารวะท่านพราหมณ์ Somas Kandar ท่านเดินเข้ามาทักทายเป็นส่วนตัว
และได้ขอบคุณที่ให้สามีเข้าไปช่วยสร้างวัดในครั้งนี้จนสำเร็จ เพียงแค่นี้ฉันก็ปลื้มและประทับใจมากในความเป็นกันเองของท่าน ถึงแม้ท่านจะไม่เคยรู้จักเรามาก่อน แต่ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาของการก่อสร้างวัดมาโดยตลอด เราไม่ต้องการรางวัลอะไร ได้ยินคำพูดที่จริงใจเป็นถ้อยคำสั้น ๆ เพียงแค่นี้เราก็ซาบซึ้งพอแล้วจ๊ะ......เรื่องของวัดฮินดูในนิมิต ( Hindu-Tempel Sri Manonmani Ammbal) ก็จบโดยสมบรูณ์เพียงแค่นี้จ๊ะ.....ขอขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ค่ะ ที่ติดตามอ่านบทความบล็อกนี้มาโดยตลอด
...............................................