สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
หลังจากเงียบไปซะนาน พบกันคราวนี้ก็จะขอนำท่านผู้อ่านไปชมวัดพระบรมธาตุกัน วัดนี้นาสนใจและ เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดตาก มีพระเจดีย์สวยมากเลย ซึ่งจำลองมาจากพระเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า
พระธาตุเจดีย์วัดพระบรมธาตุ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะเมีย วัดพระบรมธาตุตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดนี้เป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ซึ่งเป็นตัวเมืองตากในปัจจุบันนี้ ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร มีประวัติของจังหวัดตากตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน ได้หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นเมืองตากมาจนปัจจุบันนี้
เจดีย์ของวัดพระบรมธาตุมีลักษณะทรงสี่เหลี่ยม พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ทำการบูรณะใหม่โดยการสร้างครอบองค์เดิมไว้ สูงประมาณ ๒๐ เมตร มีลักษณะทรงแปดเหลี่ยม ศิลปล้านนา ภายนอกหุ้มด้วยทองเหลืองผสมทองแดง มีเจดีย์องค์เล็ก ๑๖ องค์ ซุ้มสำหรับบรรจุพระพุทธรูป ๑๒ องค์ วัดนี้ได้รับการปฎิสังขรณ์มาหลายครั้งแล้ว ตัวพระอุโบสถมีประตูเป็นไม้แกะสลักที่สวยงามมาก มีหน้าบันและจั่วเป็นไม้ หน้าต่างแกะสลักเป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาคและมีพระวิหารเก่าแก่ มีเพดานสูง ๒ ชั้น มีช่องลมอยู่โดยรอบ ทำให้อากาศถ่ายเทเย็นสบาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว และลงลักปิดทองคำเปลว ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ๑ วัน กับ ๑ คืน เป็นเสร็จพิธีเรียบร้อย ด้วยเหตุที่ได้ทำเสร็จอย่างรวดเร็วทันใจ คณะผู้ศรัทธาจึงได้ตั้งชื่อว่า "หลวงพ่อทันใจ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เคารพสักการะบูชาของประชาชนผู้ศรัทธา ทั้งในจังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ญาติโยมที่มาตั้งจิตอธิษฐานขออะไรก็ได้สมความปรารถนาทุกประการ นับเวลาจนถึงปัจจุบันนี้ร่วม ๒๐๐ กว่าปี
เมื่อวันที่ ๑๕ มีนา ศกนี้ กลุ่มของเราก็ได้มีโอกาสแวะชมและนมัสการพระธาตุเจดีย์ชเวดากองของวัดนี้เป็นครั้งแรก ได้สวดมนต์และเวียนเทียนถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา นอกจากนั้นยังได้นมัสการหลวงพ่อทันใจด้วย......ก็มีรูปภาพมาฝากท่านผู้อ่านด้วยค่ะ
บทสวดนมัสการหลวงพ่อทันใจ "ตะกุตะกะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา"
..............................................
หลังจากเงียบไปซะนาน พบกันคราวนี้ก็จะขอนำท่านผู้อ่านไปชมวัดพระบรมธาตุกัน วัดนี้นาสนใจและ เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดตาก มีพระเจดีย์สวยมากเลย ซึ่งจำลองมาจากพระเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า
พระธาตุเจดีย์วัดพระบรมธาตุ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะเมีย วัดพระบรมธาตุตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดนี้เป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ซึ่งเป็นตัวเมืองตากในปัจจุบันนี้ ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร มีประวัติของจังหวัดตากตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน ได้หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นเมืองตากมาจนปัจจุบันนี้
เจดีย์ของวัดพระบรมธาตุมีลักษณะทรงสี่เหลี่ยม พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ทำการบูรณะใหม่โดยการสร้างครอบองค์เดิมไว้ สูงประมาณ ๒๐ เมตร มีลักษณะทรงแปดเหลี่ยม ศิลปล้านนา ภายนอกหุ้มด้วยทองเหลืองผสมทองแดง มีเจดีย์องค์เล็ก ๑๖ องค์ ซุ้มสำหรับบรรจุพระพุทธรูป ๑๒ องค์ วัดนี้ได้รับการปฎิสังขรณ์มาหลายครั้งแล้ว ตัวพระอุโบสถมีประตูเป็นไม้แกะสลักที่สวยงามมาก มีหน้าบันและจั่วเป็นไม้ หน้าต่างแกะสลักเป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาคและมีพระวิหารเก่าแก่ มีเพดานสูง ๒ ชั้น มีช่องลมอยู่โดยรอบ ทำให้อากาศถ่ายเทเย็นสบาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว และลงลักปิดทองคำเปลว ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ๑ วัน กับ ๑ คืน เป็นเสร็จพิธีเรียบร้อย ด้วยเหตุที่ได้ทำเสร็จอย่างรวดเร็วทันใจ คณะผู้ศรัทธาจึงได้ตั้งชื่อว่า "หลวงพ่อทันใจ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เคารพสักการะบูชาของประชาชนผู้ศรัทธา ทั้งในจังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ญาติโยมที่มาตั้งจิตอธิษฐานขออะไรก็ได้สมความปรารถนาทุกประการ นับเวลาจนถึงปัจจุบันนี้ร่วม ๒๐๐ กว่าปี
เมื่อวันที่ ๑๕ มีนา ศกนี้ กลุ่มของเราก็ได้มีโอกาสแวะชมและนมัสการพระธาตุเจดีย์ชเวดากองของวัดนี้เป็นครั้งแรก ได้สวดมนต์และเวียนเทียนถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา นอกจากนั้นยังได้นมัสการหลวงพ่อทันใจด้วย......ก็มีรูปภาพมาฝากท่านผู้อ่านด้วยค่ะ
หลวงพ่อทันใจประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ |
องค์พระเจดีย์เป็นลักษณะ ๘ เหลี่ยม |
อีกมุมหนึ่งของพระเจดีย์ สวยงามน่าชมทุกมุมจ๊ะ |
บทสวดนมัสการหลวงพ่อทันใจ "ตะกุตะกะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา"
..............................................