สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้ที่สวิสเซอร์แลนด์อากาศดี มีฝนตกเกือบทั้งวัน ต้นไม้ต้นหญ้าพากันสดชื่นตาม ๆ กัน มนุษย์ก็เช่นกันจ๊ะ ถ้าฝนไม่ตกสักหนึ่งสัปดาห์รู้สึกแย่ตาม ๆ กัน ยิ่งอาศัยอยู่บนพื้นที่สูง ๆ จะรู้สึกร้อนมาก ๆ ทีเดียว นี่ก็เป็นวิบากที่ไม่สามารถเลี่ยงได้เลย คงจะเคยเป็นคนภูเขามาก่อน เลยต้องมาอยู่บนภูเขา แต่ก็ไม่ถึงกับสูงจนเดินไม่ไหวหรอกนะ....เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ต่อไปนี้ก็ขอเข้าสู่เรื่องตามที่ตั้งใจจะเสนอท่านผู้อ่านซะที......วันนี้ก็จะขอเชิญท่านชมความแปลกแต่จริงของพระธาตุหัวกลับ
เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ศกนี้ ฉันและสามีได้มีโอกาสไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวง ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยน้องสาวและน้องเขยแนะนำว่า ที่ลำปางมีวัดพระธาตุหัวกลับ เกิดมาก็เพิ่งจะได้ยิน ทีแรกที่ได้ยิน จิตคิดปรุงแต่งไปซะไกล คิดว่าคงจะเป็นองค์พระธาตุที่เขาสร้างขึ้นแบบหัวกลับลงดิน
ที่ไหนได้เป็นเพียงเงาสะท้อนจากแสงพระอาทิตย์มากระทบกับองค์พระธาตุ แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นภาพพระธาตุหัวกลับนี้ได้ทุกเวลาตามต้องการนะ เพราะต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์จึงจะเห็นเงาขององค์พระธาตุได้
พวกเราก็ได้เข้าไปนมัสการบูชาพระธาตุ แต่่ไม่ได้มีโอกาสแวะเข้าไปในวิหารพระพุทธ เพื่อส่องดูเงาพระธาตุที่รอดผ่านรูผนังมาปรากฏบนผืนผ้าภายในวิหารนั้น เพราะว่าช่วงนั้นอยู่ระหว่างการบูรณะวัด เขาไม่อนุญาตให้เข้าไปในโบสถ์และวิหาร ก็ได้แต่เวียนเทียนรอบพระธาตุเจดีย์เท่านั้น อย่างไรก็ตามไปวัดนี้ไม่เสียเที่ยว เราก็ได้ชมความงามขององค์พระธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะแบบล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยม ย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่า "ทองจังโก้" ตามตำนานกล่าวว่าข้างในพระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดที่สวยงามมากและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งของเมืองลำปาง ฉันก็มีรูปสวย ๆ มาฝากท่านผู้อ่านด้วยนะคะ......เชิญชมได้เลยจ๊ะ
ถ้าท่านอยากจะชมมากกว่านี้ก็ต้องไปที่ลำปางจ๊ะ คิดว่าเขาคงจะบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว.....สำหรับบทความนี้ก็ขอจบเพียงแค่นี้จ๊ะ ไว้พบกันอีกในบทความใหม่นะคะ
......................................
วันนี้ที่สวิสเซอร์แลนด์อากาศดี มีฝนตกเกือบทั้งวัน ต้นไม้ต้นหญ้าพากันสดชื่นตาม ๆ กัน มนุษย์ก็เช่นกันจ๊ะ ถ้าฝนไม่ตกสักหนึ่งสัปดาห์รู้สึกแย่ตาม ๆ กัน ยิ่งอาศัยอยู่บนพื้นที่สูง ๆ จะรู้สึกร้อนมาก ๆ ทีเดียว นี่ก็เป็นวิบากที่ไม่สามารถเลี่ยงได้เลย คงจะเคยเป็นคนภูเขามาก่อน เลยต้องมาอยู่บนภูเขา แต่ก็ไม่ถึงกับสูงจนเดินไม่ไหวหรอกนะ....เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ต่อไปนี้ก็ขอเข้าสู่เรื่องตามที่ตั้งใจจะเสนอท่านผู้อ่านซะที......วันนี้ก็จะขอเชิญท่านชมความแปลกแต่จริงของพระธาตุหัวกลับ
เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ศกนี้ ฉันและสามีได้มีโอกาสไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวง ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยน้องสาวและน้องเขยแนะนำว่า ที่ลำปางมีวัดพระธาตุหัวกลับ เกิดมาก็เพิ่งจะได้ยิน ทีแรกที่ได้ยิน จิตคิดปรุงแต่งไปซะไกล คิดว่าคงจะเป็นองค์พระธาตุที่เขาสร้างขึ้นแบบหัวกลับลงดิน
ที่ไหนได้เป็นเพียงเงาสะท้อนจากแสงพระอาทิตย์มากระทบกับองค์พระธาตุ แต่ก็ใช่ว่าจะเห็นภาพพระธาตุหัวกลับนี้ได้ทุกเวลาตามต้องการนะ เพราะต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์จึงจะเห็นเงาขององค์พระธาตุได้
พวกเราก็ได้เข้าไปนมัสการบูชาพระธาตุ แต่่ไม่ได้มีโอกาสแวะเข้าไปในวิหารพระพุทธ เพื่อส่องดูเงาพระธาตุที่รอดผ่านรูผนังมาปรากฏบนผืนผ้าภายในวิหารนั้น เพราะว่าช่วงนั้นอยู่ระหว่างการบูรณะวัด เขาไม่อนุญาตให้เข้าไปในโบสถ์และวิหาร ก็ได้แต่เวียนเทียนรอบพระธาตุเจดีย์เท่านั้น อย่างไรก็ตามไปวัดนี้ไม่เสียเที่ยว เราก็ได้ชมความงามขององค์พระธาตุ ซึ่งเป็นศิลปะแบบล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยม ย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่า "ทองจังโก้" ตามตำนานกล่าวว่าข้างในพระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดที่สวยงามมากและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งของเมืองลำปาง ฉันก็มีรูปสวย ๆ มาฝากท่านผู้อ่านด้วยนะคะ......เชิญชมได้เลยจ๊ะ
ถ้าท่านอยากจะชมมากกว่านี้ก็ต้องไปที่ลำปางจ๊ะ คิดว่าเขาคงจะบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว.....สำหรับบทความนี้ก็ขอจบเพียงแค่นี้จ๊ะ ไว้พบกันอีกในบทความใหม่นะคะ
......................................