วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

ชมและนมัสการพระธาตุนคร จ.นครพนม

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ขอเล่าต่อจากคราวที่แล้วเลยนะคะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา....ในที่สุดเราก็ได้เดินทางมาถึงจังหวัดนครพนมเป็นเวลาค่ำจนได้ เพราะมาเสียเวลารถติดตอนจะเข้าเมือง  พอมาถึงในตัวจังหวัด เราก็ตื่นเต้นอยากจะเห็นสิ่งแรกคือพระธาตุพนม และสิ่งที่สองที่อยากจะเห็นวิวแม่น้ำโขงยามค่ำ คนขับรถบอกว่าพระธาตุพนมต้องไว้วันพรุ่งนี้ถึงจะได้ชม เพราะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ต้องออกไปอีกไกล ส่วนแม่น้ำโขงนั้นไปชมได้เลย  ว่าแล้วเขาก็พาเราไปชมวิวแม่น้ำโขงกันก่อน  ก็ได้เดินเล่นกินลมชมแสงไฟริมแม่น้ำโขง รู้สึกเงียบจัง ตลาดอินโดจีนที่อยู่ตรงหน้าแม่น้ำโขงก็ปิด มีผู้คนเดินเล่นกันบ้างไม่มากนัก ลมพัดอ่อน ๆ เย็นสบาย ได้คลายเส้นสายสักหน่อยก็ยังดี  จากนั้นก็ต้องรีบไปหาโรงแรมที่พักกันก่อน  เพราะว่ายังไม่ได้จองไว้ โรงแรมที่นครพนมหาไม่ยากนัก ส่วนมากจะว่าง เพราะไม่ใช่แหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ โรงแรมใหม่ ๆ ทันสมัยมีห้องว่างเยอะ ราคาไม่แพง เราได้เปิดห้องให้คนขับรถนอนอีกหนึ่งคืน เขาดีใจมากที่เราได้เปิดห้องให้เขาได้นอนหลับสบาย ๆ เขากล่าวขอบคุณแล้วขอบคุณอีก เขาบอกว่า ตั้งแต่ทำงานด้านนี้มาก็ร่วม ๑๓ ปีแล้ว ยังไม่มีแขกคนไหนเปิดโรงแรมให้นอนเลย  ต้องนอนในรถ บางครั้งหนาวตอนดึกอากาศหนาวทั้งในรถและนอกรถ ทำให้นอนไม่หลับ วันรุ่งขึ้นก็ไม่มีแรงขับรถ ฉันก็เลยบอกไปว่า "ที่เราเปิดห้องให้นอนก็เพราะว่าอยากจะให้นอนหลับให้สบาย วันรุ่งขึ้นจะได้มีแรงขับรถให้พวกเราได้ไปทำบุญอย่างเต็มที่" จากนั้นเขาก็ขอตัวหลบไปสักครู่แล้วก็มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อกี้นี้ผมโทรไปเล่าให้ภรรยาฟัง ว่า คืนนี้คุณพี่เปิดห้องนอนให้นอนอย่างหรู่หราให้นอน  ภรรยาก็ตื่นเต้นไปด้วย" พวกเราก็ได้แต่ยิ้มแบบขำ ๆ กัน เย็นนี้เราก็ได้ออกไปเที่ยวหาร้านอาหารอร่อย ๆ เราไม่ทราบว่าร้านไหนอร่อย  น้องสาวฉันแนะนำว่า ต้องสังเกตจากจำนวนรถที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน  มีอยู่ร้านหนึ่งเห็นมีรถจอดเต็มไปหมด เราก็ตกลงปลงใจที่จะรับประทานอาหารที่นั่น ร้านชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้ว สนใจรสชาดอาหารมากกว่าชื่อร้าน พอเข้าไปในร้านก็เห็นคนนั่งเต็มไปหมด แต่เราก็โชคดีที่มีโต๊ะว่าง  ไม่ถึงกับต้องยืนรอ อาหารที่นั่นออกช้าหน่อยแต่อร่อยมากคนขับรถก็ได้รับเกียรติให้ร่วมโต๊ะรับประทานด้วยกันกับพวกเรา รู้สึกว่าเขาจะเขิน ๆ หน่อย ฉันก็เลยบอกว่าไม่ต้องอายน่ะ พวกเรามาด้วยกันก็กินด้วยกันได้  ไม่มีการแบ่งแยกชั้นวรรณะ เขาก็เข้าใจและกล่าวว่า "ขอบคุณครับ" ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะรับประทานอะไรมากนัก อ้างว่ากินมากแล้วทั้ง ๆ ที่กินไม่มาก

วันเสาร์ที่ ๑๐ มีนา วันนี้เราก็ตื่นแต่เช้าเช่นเคย เพราะตื่นเต้นที่จะได้ไปชมในตัวเมืองนครพนม คนขับรถพาชมเมือง แล้วก็พาไปชมแม่น้ำโขงในยามเช้า  ที่หน้าแม่น้ำโขงมีวัดหลายวัดอยู่เรียงรายแทบติด ๆ กัน ล้วนแต่เป็นวัดสวย ๆ ทั้งนั้น  มีวัดหนึ่งที่ใกล้ ๆ ที่เราจอดรถ ชื่อวัดมหาธาตุ  เราก็ได้เข้าไปนมัสการพระธาตุนครที่วัดพระธาตุ ที่วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์สวยงามมาก อากาศเช้านั้นเย็นสบายมีลมพัดมาอ่อน ๆจนบางครั้งก็รู้สึกหนาวกาย  เช้านี้ตลาดอินโดจีนเปิด มีผู้คนเริ่มทยอยกันมาซื้อของ ที่นั่นมีของขายสารพัดอย่าง แต่เราไม่ได้แวะเข้าไปชมหรอก เพราะมีเวลาน้อย ต้องรีบไปนมัสการพระธาตุพนม  จากนั้นคนขับรถก็พาเข้าไปแวะจอดรถที่หน้าตลาดสด แล้วเขาก็หายตัวไปไหนไม่ทราบ สักประมาณ ๑๐ นาทีก็กลับมาพร้อมกับห่อของกิน ๑ ห่อ  เขาเปิดห่อให้ดู แล้วถามพวกเราว่า "รู้จักข้าวเหนียวปิ้งมั้ยครับ" พวกเราก็หัวเราะกันเพราะขำมาก ที่เขาแอบไปซื้อข้าวเหนียวปิ้งไม่บอกให้รู้บ้าง  น้องสาวตอบว่า "ทำไมลุงไม่บอกกันบ้างล่ะ ว่าจะไปซื้อข้าวเหนียวปิ้ง จะได้ไปซื้อด้วย ของชอบของพวกเราล่ะ ทำไมจะไม่รู้จัก เพราะแม่ทำให้กินบ่อย ๆ " ว่าแล้วคนขับรถก็เชิญชวนพวกเราให้ชิมข้าวเหนียวปิ้ง คนลาวเขาเรียก "ข้าวเหนียวจี่" ลองชิมแล้วผิดหวัง เพราะไม่ใช่ข้าวเหนียวจี่แบบสมัยก่อน กลายเป็นข้าวเหนียวทอดทาไข่หรือเคลือบไข่ แต่ก็กินแก้หิวได้เหมือนกัน.... จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปยังอำเภอท่าอุเทน
แต่ก่อนอื่น ก็ขอเชิญชมรูปภาพวัดมหาธาตุและพระธาตุนคร วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวนครพนมแห่งหนึ่งก่อนนะคะ  แล้วค่อยติดตามตอนต่อไป

พระธาตุนคร(พระธาตุประจำวันของคนเกิดวันเสาร์)
วัดมหาธาตุ
มุมอีกด้านหนึ่งของวัดมหาธาตุ

ป้ายแสดงสุดเขตแดนไทย

วิวแม่น้ำโขงตอนเช้าฝั่งไทย
พระธาตุนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ คาถาสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองคือ "โส มา ระ กะ ริ กา โธ" สวดบูชาพระธาตุวันละ ๑๐ จบ ชื่อว่า "คาถาพระนารายณ์ถอดจักร" ใช้ในทางถอดคุณไสยศาสตร์ ประจำอยู่ที่ทิศหรดีหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้...พระธาตุนครประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม วัดนี้เป็นวัดประจำเมือง เป็นที่ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการเมืองนครพนมมาโดยตลอด....พระธาตุนครมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ ๕.๘๕ เมตร สูง ๒๕ เมตร ก่อสร้างเสร็จในเดือนเพ็ญของปี ๒๔๖๕ มีรูปแบบคล้ายพระธาตุพนมองค์เดิม ภายในบรรจุพระอรหันต์สารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่าง ๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาได้นำมาถวาย เพื่อบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ เชื่อกันว่าผู้ใดมีโอกาสได้ไปนมัสการพระธาตุองค์นี้แล้ว จะได้รับอานิสงส์ส่งเสริมบุญบารมี....สิ่งของสำหรับบูชาพระธาตุ ได้แก่ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ธูป ๑๐ ดอก เทียน ๒ เล่ม

ขอเชิญติดตามตอนต่อไปนะคะ.....ตอนไปนมัสการพระธาตุท่าอุเทนและพระธาตุพนม