ภาพปราสาทโบราณอายุ ๗๐๐ ปีกว่า |
ที่บ้านของฉัน
ใครก็ตามที่เข้ามาในบ้านของเรา ถ้าเป็นคนที่มีความประพฤติไม่ดี จะโดนเทวดาเจ้าบ้านเจ้าเรือนตักเตือนสั่งสอน ท่านไม่ยกเว้นเลยนะ เคยมี พระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง ( จำนวน ๕ รูป) จากวัดชื่อดังในเมืองไทย มาร่วมงานฉลองเปิดวัดไทย ได้มาฉันเพลที่บ้านฉัน เพราะมีคนแนะนำให้นิมนต์ท่าน มีพระรูปหนึ่ง (หัวหน้ากลุ่ม) ชอบใช้คำสรรพนามบุรุษที่สามไม่สุภาพต่อเจ้าของบ้าน เช่น คำว่า "ไอ้" หรือ "อี" เป็นต้น พอฉันอาหารเสร็จ ท่านก็รี่เข้าห้องน้ำทำกิจส่วนตัว เสร็จแล้วปรากฏว่า ท่านไม่สามารถเปิดประตูห้องน้ำได้ ติดอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน ไม่มีใครทราบ ฉันสงสัยว่าหลวงพ่ี่่หายเงียบไปไหนรูปหนึ่ง จึงไปที่ห้องน้ำ ได้ยินเสียงท่านพยายามไขลูกกุญแจอยู่ ฉันจึงบอกวิธีบิดลูกกุญแจให้ ท่านได้พยายามจนอ่อนใจ ฉันทราบทันทีว่า พระรูปนี้โดนขังเพราะอะไร พอฉันนึกได้เท่านั้นแหละ ประตูก็ถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
มีแม่ชีพราห์มท่านหนึ่ง มาจากเมืองไทย มาเยี่ยมฉัน ท่านโดนขังเกือบชั่วโมง ต้องส่งลูกชายตัวเล็ก ๆ ปีนหน้าต่างเข้าไปช่วยเปิดประตูให้ เพราะท่านพูดจากล้าหาญ ไม่เกรงกลัวว่าเทวดาจะได้ยิน จึงโดนเทวดาเจ้าบ้านตักเตือนแค่เบาะ ๆ คนไหนมีอาชีพไม่สะอาด ไม่ซื่อสัตย์ หรือไม่ให้เกียรติต่อสถานที่และเจ้าของบ้าน ถ้าเข้าห้องน้ำก็จะถูกขังอยู่เป็นเวลานาน..... มีอีกเรื่องหนึ่งตลกดี มีเด็กสาววัยรุ่น ๓ คน เขามากับแม่เขา ซนมาก ๆ นั่งเฉย ๆ ไม่เป็น ชอบทำพฤติกรรม ในทำนองก่อกวนอารมณ์ผู้ใหญ่ให้ขุ่น เช่น ชอบเปิดปิดไฟเล่น โดยไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน แม่ดุว่าก็ไม่ยอมหยุด ไม่ทราบว่าพวกเธอไปทำอีท่าไหน โดนขังในห้องน้ำพร้อมกันทีเดียวสามคนเลย ไม่สามารถไขกุญแจออกมาได้ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้วเป็น "แปลกแต่จริง" ไงล่ะ เวลามีการทำบุญที่บ้านฉัน คนไทยที่ไปร่วมทำบุญ บางคนเวลาเขาจะเข้าห้องน่ำ ต้องมีคนคอยยืนเฝ้าหน้าประตูให้ กลัวจะโดนขัง เขาคงจะคิดอะไรไม่ค่อยดีนัก ก็เลยเกิดความไม่แน่ใจ แค่คิดไม่ดีก็โดนเตือนแล้ว ถ้ากระทำไม่ดียิ่งจะโดนหนักกว่านี้
ถึงกับเลือดตกยางออกได้.....นี่แหละค่ะเทวดาเป็นพยานในการกระทำดีกระทำชั่วของมนุษย์ ทำดีไม่มีใครเห็น ไม่มีใครชม ไม่ต้องน้อยใจนะคะ ทำดีต่อไปเถิดนะคะ ไม่สูญเปล่าเพราะว่าเทวดามีจริง....เรื่องนี้ก็ขอยุติเพียงแค่นี้จ๊ะ พบกันอีกในบทความต่อไปนะคะ.
...................................